18/7/53

บอกลาของกินสุดโปรดที่ทำไห้หุ่นเสีย

มาดูกันค่ะ(ต้องรีบหน่อย เจ้านายมาพอดี อิอิ)
1.ช็อกโกแลต
2.เค็ก,ไอศครีม
3.กล้วยบวชชี,กล้วยแขกด้วยนะ
4.ขนมครก
ยังมีอีกเดี้ยวมานะค่ะ

16/7/53

เลื่อนตัวเองขึ้นแต่อย่าลดคนอื่นลง

อาจารย์คนหนึ่งชวนลูกศิษย์เดินไปตามชายหาด ช่วงหนึ่งของการสนทนา

อาจารย์ใช้ไม้เท้าขีดเส้นสองเส้นลงไปบนผืนทราย เป็นเส้นคู่ขนาน ยาว 5 ฟุต และ 3 ฟุต ตามลำดับ

อาจารย์กล่าวว่า "เธอลองทำให้เส้น 3 ฟุต ยาวกว่าเส้น 5 ฟุต ให้ดูหน่อยสิ"

ลูกศิษย์หยุดคิดครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจลบรอยเส้นที่ยาว 5 ฟุตนั้นให้สั้นลงจนเหลือเพียง 1 ฟุต จึงทำให้เส้น 3 ฟุตโดดเด่นขึ้นมา แล้วศิษย์ก็สบตาอาจารย์พลางขอความเห็นว่า "เช่นนี้ ใช้ได้หรือยังครับ"

อาจารย์เขกหัวศิษย์เบา ๆ แล้วบอกว่า "คนที่คิดจะยกตนเองให้สูงขึ้นโดยการทำร้ายคู่แข่งนั้นไม่ใช่วิธีที่ดี ดังนั้นถ้าเลือกใช้วิธีนี้ชีวิตเธอก็มีแต่จะล้มเหลวไม่พัฒนาทางที่ดีควรเลือกวิธีที่จะยกตัวเองขึ้น โดยไม่ไปลดคนอื่นลง"

แล้วอาจารย์ก็ขีดเส้น 2 เส้นให้เท่าเดิม คือ 3 ฟุต และ 5 ฟุต แล้วอาจารย์ก็สาธิตให้ดู

ด้วยการขีดเส้น 3 ฟุตให้ยาวขึ้นเป็น 10 ฟุต แล้วกล่าวว่า "จงอย่าคิดว่าคู่แข่งของเธอคือศัตรูแต่ให้คิดว่าเป็นครูของเธอ ที่เธอจะต้องพัฒนาตนเองให้เทียบเท่าหรือดีกว่า"

เขาคือคนสำคัญที่จะทำให้เธอได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม หากไร้คู่แข่งแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมีศักยภาพในการทำงานขนาดไหน ไม่มีอัปลักษณ์ก็ไม่รู้จักสวยงาม

นักสู้ที่ดีมักชื่นชมคู่ต่อสู้ที่เข้มแข้ง เพราะคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอจะทำให้ชัยชนะของเขาไม่ยั่งยืนยง

ดังนั้นเมื่อได้พบกับคู่แข่งที่แกร่งและฉลาดล้ำ ก็ยิ่งทำให้เรารู้จักขยับตัวเองขึ้นไปให้สูงส่งยิ่งขึ้น

คนที่พยายามจะเลื่อนตัวเองขึ้นไป โดยการฆ่าน้อง ฟ้องนาย และขายเพื่อนถึงแม้จะทำให้สำเร็จ แต่นั่นก็เป็นความสำเร็จที่ปราศจากเกียรติคุณไม่อาจเอ่ยอ้างได้อย่างเต็มภาคภูมิ

การเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยวิธีที่ไม่ชอบธรรม กับการเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยปล่อยให้คนอื่นได้ก้าวไปตามวิถีทางของเขาอย่างเสรีนั้น ย่อมมีผลลัพธ์ที่ต่างกัน

การเลื่อนตัวเองขึ้นพร้อมกับลดคนอื่นลง เธออาจจะชนะ แต่ก็มีศัตรูเป็นของแถมแต่การเลื่อนตัวเองขึ้นโดยไม่ลดคนอื่นลง เธออาจเป็นผู้ชนะ พร้อมกับมีเพื่อนแท้เพิ่มขึ้นมากมาย

และหนึ่งในนั้นอาจเป็นคู่แข่งหรืออดีตศัตรูของเธอเองด้วยเป็นสังคมแห่งความสำเร็จบนพื้นฐานของมิตรภาพโดยแท้

7 ช่วงเวลาที่สาวๆ ควรปฏิเสธ

มาต่อข้อที่ 3 กันดีกว่านะ (เดี้ยวเจ้านายมางานจะเข้าค่ะ) ลองอ่านกันดูค่ะว่าข้อต่อไปเป็นเรื่องอะไร
3.การออกกำลังบนที่นอนไม่มีผลอะไรต่อโรคหวัดก็จริงแต่เชื้อหวัดจากคุณอาจจะข้ามพรมแดนไปติดเขาได้เพราะเอาหน้ามาไกล้กันซะ
4. ติดเชื้อรา อาการของคนที่ติดเชื้อราในช่องคลอดจะมีตกขาวสีขาวขุ่นจนถึงเหลืองไหลออกมาถ้าอยู่ในขั้นรุนแรงตกขาวจะมีกลิ่นเหม็น มีอาการคันร่วมด้วยค่ะ (เราก็เคยเป็น รักษาไม่ยาก ทานยางอกิจกรรมบนเตียง สำหรับคนที่มีคู่แล้วนะค่ะ และไปหาหมอได้ยามาทานทานยาไห้ครบตามที่หมอบอกนะไม่นานหายแน่
5.มีรอบเดือนมีอะไรกันช่วงนี้นอกจากเลอะเทอะสกปรกแล้วยังอาจติดเชื้อง่ายๆๆค่ะ เพราะเป็นช่วงที่ปากช่องคลอดเปิดเพื่อระบายระดูออกมาค่ะ ถ้าไม่มั่นใจว่าแฟนเราไม่มีเชื้อใดติดมาควรรอให้ประจำเดือนหมดก่อนก็ดีนะค่ะ
6.ในขณะที่ถุงยางขาดมือค่ะ คงไม่ต้องอธิบายมานะค่ะ เพราะถ้าเรายังไม่พร้อมที่จะมีเจ้าตัวเล็กล่ะก็ควรเลี่ยงซะดีกว่าค่ะ
7.ข้อสุดท้าย ในขณะที่แฟนคิดกำลังนอกใจ (อิอิอิ เล่นตัวบ้างค่ะ )

14/7/53

7ช่วงเวลาที่ผู้หญิงควรปฏิเสธการมี "sex" ค่ะ

แนะนำตัวกันก่อนค่ะ บล็อกwomanนี้มีแรงบันดาลใจเพราะตัวเองเป็น ผู้หญิงค่ะ จึงอยากนำความรู้ที่ได้ตระเวนหาหรือที่พบจากประสบการณ์โดยตรงของผู้เขียน มาให้ทราบกัน โดยรวมแล้วคือบล็อกจะนำเสนอความรู้ เทคนิค ความสวยความงาม เรื่องราวที่ผู้หญิงควรทราบเราจะอับเดทข้อมูล บทความ เนื้อหาสาระต่างๆมาเผยแพร่โดยทั่วกันค่ะ ผู้อ่านก็สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้แบบกันเองค่ะ เพราะเราคือผู้หญิงหัวอกเดียวกัน
7 ช่วงเวลาที่ ผู้หญิงอย่างเราๆ ควรปฎิเสธที่จะ “เมคเลิฟ”sex
(สาวโสด จะศึกษาเป็นแนวทางก่อนก็ดีนะ)
ไม่ว่าหวานใจเราจะฮอตแค่ใหน แต่ใน7 เวลานี้ควร Say no
1.ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โรคนี้เกิดจากที่คุณมีเชื้อแบคทีเรียตกค้างอยู่ในทางเดินปัสสาวะเป็นจำนวนมาก จนเกิดการอักเสบ เซ็กซ์จะทำให้อาการติดเชื้อของคุณแย่ลง เพราะมันจะไปผลักให้เชื้อแบคทีเรียเคลื่อนเข้าไปมากกว่าเดิม ทีนี้นอกจากจะปัสสาวะไม่ได้แล้วคุณยังจะเจ็บปวดจนน้ำตาร่วงกับเซ็กซ์งวดต่อไป
(จำไว้นะ)
2. จะไปตรวจภายใน หนึ่งวันก่อนไปตรวจภายใน ผู้หญิงทุกคนควรรักษาช่องคลอดให้อยู่ในสภาพปกติไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปเจอปน ถ้าเผลอ “”อิ๊อ๊ะต๊ะติ๊งโหน่ง””กับหวานใจของเราไปแล้วภายใน 24ชั่วโมง ก่อนการตรวจเชื้ออสุจิและของเหลวจะตกค้างอยู่ในช่องคลอด เดี้ยวหมอจะตรวจไม่ถูกค่ะว่าคุณมีโรคอะไรหรือปล่าว
งานเข้าแล้วเจ้าของบล็อกมา ขอตัวก่อนนะเดี้ยวจะมาต่อข้อ 3 ค่ะ

มาดูความรู้ที่นำมากันค่ะ กินปลาเส้นมากระวังไตพัง

http://campus.sanook.com/กินปลาเส้นปรุงรสมาก-ระวังไตพัง-923661.html

จากนั้นมาเริ่มเดินกันค่ะกัยบทความดีๆ

สำหรับพ่อแล้ว ที่ผ่านมาตลอดชีวิต สิ่งที่ไม่มีประโยชน์นั้นยังไม่มี มันมีแต่ว่าเราจะใช้มันเวลาไหน กับสถานที่เช่นไร และกับคนชนิดใดเท่านั้นเอง

วิถีของเจ้าควรจักเริ่มต้น คือ ทำตนให้ละเอียดอ่อน พินอบพิเทา ละเมียดละไม อ่อนน้อมถ่อมตน อ่อนโยน อ่อนไหว แต่มิใช่อ่อนแอ

พ่ออยากจะบอกต่อเจ้าว่า ตอนที่เจ้าเป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่กำลังหัดเดินและหกล้ม พร้อมกับได้รับความเจ็บปวด ถ้าเจ้าไม่พยายามและเริ่มต้นเดินใหม่ เจ้าก็จะเดินไม่ได้ จนถึงปัจจุบันนี้เป็นแน่
http://www.dhamma-isara.org/think_index.html

กำลังใจจากผู้เขียนค่ะ (เพราะตัวเองต้องการอยู่เหมือนกัน)

มุมมองใหม่สำหรับคนต้องการกำลังใจ
ถ้าหากกำลังมีทุกข์ ขออย่าคิดว่าทุกข์ของตนเองมากมายกว่าผู้อื่น ให้เพียรพยายามคิดว่าผู้อื่นก็มีทุกข์ไม่น้อยไปกว่า หรืออาจจะหนักหนาสาหัสกว่าเสียอีก หากนำความทุกข์ไปเปรียบกับผู้ที่แย่กว่า จะช่วยให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้น และรู้สึกว่ายังโชคดีกว่าอีกหลายๆ คน ดังเช่นที่นักปราชญ์เคยกล่าวเอาไว้ว่า "ในขณะที่ท่านกำลังร้องห่มร้องไห้เพราะไม่มีรองเท้าใส่ ท่านควรคิดถึงคนที่เขาไม่มีแม้กระทั่งเท้า หรือหากท่านเสียใจที่ไม่มีเท้า แต่ยังมีอีกหลายคนที่ไม่มีทั้งเท้าและทั้งแขน" หรือหากทำงานและธุรกิจล้มเหลวก็ขอให้คิดว่า ความผิดพลาดและล้มเหลว คือบทเรียนเริ่มต้นของความสำเร็จ เหมือนคำกล่าวที่ว่า "บทเรียนชีวิตที่ดีที่สุด ล้วนได้มาจากความผิดพลาดล้มเหลวของตนเอง ความโง่เขลาเบาปัญญาและความผิดพลาดในอดีต จะกลายเป็นสติปัญญา และความสำเร็จในอนาคต

อะไรที่ว่า ชิว ชิว

มา ชิวชิว

เกริ่นนำเลยนะค่ะ ที่ว่าชิว ชิว เพราะไม่รู้จะเริ่มเขียนยังไงดี เพราะมือใหม่เริ่มหัด ก็เลยแบบว่า ชิว ๆไปก่อนอ่ะนะ ไครที่เข้ามาแล้ว (เรียกว่าหลงเข้ามา) อย่าเพิ่งเปลียนหน้านะค่ะ อ่านสักนิดเพื่อกำลังใจผู้จัดทำค่ะ จะตระเวนหาความรู้ดีๆมาฝากกันนะวันนี้ แค่เริ่มพอดีๆไปก่อนค่ะ ความรู้ที่ว่าก็รอบๆตัวนี่แหละค่ะ ทังโดยตรงโดยอ้อมนำมาไว้ไห้ได้คิ จะคิดมาก คิดน้อยขอไห้ได้คิดกันนะ เพราะสมองต้องคิดค่ะ